เคลือบฟลูออไรด์ ปกป้องฟันจากผุ ช่วยให้ฟันแข็งแรงได้จริงหรอ
เคลือบฟลูออไรด์ ปกป้องฟันจากผุ ช่วยให้ฟันแข็งแรงได้จริงหรอ
การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ใช่แค่การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน และลดโอกาสฟันผุได้ นั่นก็คือ การเคลือบฟลูออไรด์ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าการเคลือบฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุได้จริงผลหรือไม่ และเหมาะกับใครบ้าง วันนี้เราจะพามาไขข้อสงสัยกัน
หัวข้อที่น่าสนใจ
1.เคลือบฟลูออไรด์คืออะไร
2.ประโยชน์ของการเคลือบฟลูออไรด์
3.เคลือบฟลูออไรด์ต้องทำบ่อยแค่ไหน
4.ข้อแนะนำการดูแลหลังเคลือบฟลูออไรด์
5.สรุปการเคลือบฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ ช่วยให้ฟันแข็งแรงได้จริงไหม
เคลือบฟลูออไรด์คืออะไร
ฟลูออไรด์ เป็นสารประกอบของแร่ธาตุ ฟลูออรีน ซึ่งพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น ในน้ำดื่ม อาหารบางชนิด เช่น ปลา แครอท มะละกอ กะหล่ำปลี และเนื้อสัตว์ โดยสารนี้มีคุณสมบัติช่วยเสริมแร่ธาตุให้กับผิวฟัน ทำให้ฟันแข็งแรง และสามารถชะลอหรือยับยั้งการเกิดฟันผุในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบันการเคลือบฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุมีอยู่ 3 รูปแบบหลัก ได้แก่:
- แบบรับประทาน เช่น เม็ดฟลูออไรด์หรือน้ำฟลูออไรด์
- แบบใช้ประจำวัน เช่น ยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ผสม
- แบบใช้ในคลินิก คือ ฟลูออไรด์เข้มข้นที่ใช้โดยทันตแพทย์ในการเคลือบฟัน
การเคลือบฟลูออไรด์โดยทันตแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลสุขภาพฟันที่ปลอดภัยและได้ผลดี ช่วยลดความเสี่ยงของฟันผุ และเหมาะกับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กและผู้ที่มีแนวโน้มเกิดฟันผุง่าย
ประโยชน์ของการเคลือบฟลูออไรด์
1.ช่วยป้องกันฟันผุ
การเคลือบฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวฟัน ทำให้ฟันทนทานต่อกรดจากแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุได้ดีขึ้น
2.เสริมสร้างฟันให้แข็งแรง
ช่วยฟื้นฟูผิวเคลือบฟันที่ถูกกรดทำลาย โดยกระตุ้นการสร้างแร่ธาตุในฟัน ทำให้ฟันแข็งแรงขึ้น3.ช่วยลดอาการเสียวฟัน
บางกรณีการเคลือบฟลูออไรด์ช่วยลดอาการเสียวฟันได้ เพราะช่วยปกป้องผิวฟันจากการระคายเคือง4.ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ
การเคลือบฟลูออไรด์มีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของแบคทีเรียที่ผลิตกรด ซึ่งทำลายผิวฟัน5.ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุในระยะยาว
เมื่อเคลือบฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของทันตแพทย์ จะช่วยลดอัตราการเกิดฟันผุในอนาคตเคลือบฟลูออไรด์ต้องทำบ่อยแค่ไหน
โดยทั่วไปทันตแพทย์จะแนะนำให้เคลือบฟลูออไรด์ ทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงต่อฟันผุ และพฤติกรรมการดูแลช่องปากของแต่ละบุคคลโดยสามารถแบ่งความถี่ในการเคลือบฟลูออไรด์ตามระดับความเสี่ยงได้ดังนี้
- กลุ่มเสี่ยงต่ำ : แนะนำให้เคลือบฟลูออไรด์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- กลุ่มเสี่ยงปานกลาง : แนะนำให้เคลือบทุก 6 เดือน
- กลุ่มเสี่ยงสูง : แนะนำให้เคลือบทุก 3 เดือน
ข้อแนะนำการดูแลหลังเคลือบฟลูออไรด์
หลังจากการเคลือบฟลูออไรด์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราควรใส่ใจในการดูแลช่องปากอย่างเหมาะสม เพื่อให้ฟลูออไรด์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนี้
- 1.งดบ้วนปาก: หลังเคลือบเสร็จ ไม่ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าในช่วง 30 นาทีแรก
- งดทานอาหาร และเครื่องดื่ม: ควรงดน้ำ และอาหารอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ซึมซาบลงบนผิวฟันได้ดี
- หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง และเหนียว: ภายใน 2 ชั่วโมงแรก ควรเลี่ยงของกินที่แข็งหรือเหนียว และควรเลือกรับประทานอาหารอ่อนแทน
- งดแปรงฟันในวันแรก: หลังเคลือบฟลูออไรด์ไม่ควรแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันในวันเดียวกัน ควรเริ่มดูแลตามปกติในวันถัดไป
- รักษาความสะอาดสม่ำเสมอ: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยแปรงและยาสีฟันที่มีคุณภาพ และอย่าลืมใช้ไหมขัดฟัน รวมถึงบ้วนปากหลังมื้ออาหาร
- ไม่ต้องกังวลหากมีคราบเหลือง: หากมีคราบเหลืองหลังการเคลือบฟลูออไรด์ถือเป็นเรื่องปกติ และจะหายไปเองภายใน 23 วัน
- ตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน: เพื่อดูแลสุขภาพฟันระยะยาว ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำ
- หากมีอาการผิดปกติ รีบพบหมอฟันทันที: เช่น มีอาการระคายเคือง เจ็บ หรือฟันเปลี่ยนสีผิดปกติ